ประวัติกีฬาเทนนิส

 


                    กีฬาเทนนิสเป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่อาศัยทักษะ เทคนิค และการเล่นที่หลากหลาย ที่สำคัญ เป็นกีฬาชนิดเดียวที่มีพื้นสนามแข่งขันหลายแบบ เช่น สนามคอนกรีต สนามดิน สนามหญ้า และสนามยางสังเคราะห์ ซึ่งในแต่ละพื้นสนาม นักกีฬาจะต้องใช้ยุทธวิธีการเล่นที่แตกต่างกัน การเล่นเทนนิส ต้องอาศัยสมรรถภาพทางกลไกหลายด้าน การพัฒนาการเล่นให้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย จึงต้องอาศัยกระบวนการวิเคราะห์ และการประยุกต์หลักการทางวิทยาศาสตร์ การกีฬาเฉพาะด้าน

ประวัติและความเป็นมาของกีฬาเทนนิส


                    กีฬาเทนนิส หรือเรียกว่า ลอนเทนนิส (Lawn Tennis) เพราะกีฬาประเภทนี้เล่นในสนามหญ้า คำว่า "Lawn" แปลว่า สนามหญ้า ลอนเทนนิส ในปัจจุบันได้วิวัฒนาการไปมาก และไม่จำเป็นต้องเล่นกันในสนาม อาจจะเล่นกันในห้องที่มีหลังคา พื้นไม้ หรือพื้นคอนกรีต แต่อย่างไรก็ตาม กีฬาประเภทนี้ยังได้ชื่อว่าลอนเทนนิสอยู่ดังเดิม เพราะเทนนิสแท้จริงนั้นเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่เล่นกันในสนามที่มีหลังคา แล้วใช้แร็กเกต ที่ใหญ่กว่าแร็กเกตลอนเทนนิสธรรมดา ส่วนลูกบอลจะคล้ายลูกซอฟต์บอล หรือเบสบอล กีฬาเทนนิสเริ่มเล่นกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนลอนเทนนิสเพิ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ในสมัยกรีกและโรมัน มีกีฬาซึ่งคล้ายกับเทนนิส ที่เล่นกันในเมื่อประมาณ 1,300 ปี ก่อนคริสต์ศักราช กีฬาประเภทนี้เรียกเป็นภาษาฝรั่งเศษว่า "เจอ เดอ ปุม" (JUE DE PAUME) ชาวฝรั่งเศษ นำเข้ามาเล่นในประเทศฝรั่งเศษ โดยระยะแรกใช้ตบด้วยมือ (คล้ายวอลเลย์บอล) แต่ต่อมาได้ วิวัฒนาการเป็นใช้แร็กเกต สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเทนนิสที่ได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ปรากฎเป็นครั้งแรกในอิตาลี เมื่อปี พ.ศ. 2098 จนในศตวรรษที่ 16 และ 17 จึงได้แพร่หลายไปในอังกฤษ ศตวรรษที่ 18 กีฬาชนิดนี้ได้ลดความนิยมลง แต่ได้เริ่มนิยมเล่นกันอีกในหมู่ผู้มั่งคั่ง เมื่อราวศตวรรษที่ 19

                    คำว่า "เทนนิส" มาจากภาษาฝรั่งเศษว่า "เทเนซ์" (Tenez) ซึ่งแปลว่า จะเอาไปเล่น โดยมีชาวอังกฤษชื่อ W.Skeet ผู้ซึ่งมีความชำนาญ และมีชื่อเสียงให้การสนับสนุนว่า เทเนซ์ เป็นของดั้งเดิมจริง แต่อ่านว่า "เทเนทซ์" (Tenez) ซึ่งหมายความว่า เอาใจใส่ หรือระวัง โดยมีความหมายเหมือนกับในปัจจุบันคือ "เล่น" นาย Malcolm D. Whitman ผู้เขียนเรื่องความเป็นมา และความมหัศจรรย์ของเทนนิสกล่าวว่า การเล่น เจอ เดอ ปุม ได้ปรากฎก่อนเทนเนซ์ ในปี พ.ศ. 2416 พันตรี Walter C. Wingfield แห่งกองทัพบกอังกฤษได้ดัดแปลงการเล่นเทนนิสซึ่งเล่นกันในร่มไปเล่นกันในสนามกลางแจ้ง พร้อมทั้งนำเอาแร็กเกตแบดมินตัน และคอร์ตเทนนิสมารวมกันเข้า และดัดแปลงเป็นกีฬาใหม่เรียกว่า "สไพริสไตค์" (Sphairistike) ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นลอนเทนนิส เพราะเป็นกีฬาที่เล่นในสนามหญ้า และมีวิธีการเล่นที่คล้ายคลึงกับกีฬาเทนนิสสมัยเดิมมาก ในขั้นแรกใช้คอร์ตที่มีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย ตาข่ายสูง 7 ฟุต กั้นกลาง และภายหลังจากเขา ได้แนะนำกีฬาชนิดนี้ ให้ประชาชนได้รู้จักกันเป็นครั้งแรกในงานเลี้ยงที่สนามปาร์ตี้ (Lawn Party) ณ เวลส์ ในปี พ.ศ. 2417 Walter C. Wingfield ได้จดทะเบียนสงวนสิทธิ์ของสนาม จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2418 ประชาชนได้เรียกร้องให้เลิกสงวนลิขสิทธิ์นี้ กีฬาเทนนิสจึงได้แพร่หลาย เพื่อความสะดวกของผู้เล่น สมาคมโครเกต์แห่งอังกฤษ ที่วิมเบิลดันได้อุทิศสนามให้เป็นที่เล่นกีฬาชนิดนี้ และทางสมาคมยังได้จัดการแข่งขันชิงชนะเลิศของโลกประเภทสมัครเล่นขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2420 ทำให้มีการแข่งขันลอนเทนนิสที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ ในปี พ.ศ. 2431 ได้มีการก่อตั้งสมาคมลอนเทนนิสแห่งชาติขึ้นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งต่อมาสมาคมนี้ มีชื่อว่า "ลอนเทนนิสสมาคม" และได้จัดพิมพ์กติกาการเล่นเทนนิสขึ้น อย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ. 2437

ประวัติกีฬาเทนนิสในประเทศไทย

                    ปี พ.ศ. 2440 กีฬาเทนนิสเข้ามาเล่นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยยุคนั้นเป็นผู้นำเข้ามา ในขณะนั้นคนไทยยังไม่สนใจการเล่นเทนนิสมากนัก คงเล่นกันในหมู่คนต่างชาติ ต่อมาชาวไทยที่เล่นเทนนิสในระยะแรกได้แก่เจ้านายคนไทยชั้นสูง ข้าราชการชั้นสูง และนักเรียนไทย ที่เดินทางกลับมาจากการศึกษาในยุโรป ครั้งนั้นนักเทนนิสไทยบางท่านนุ่งผ้าม่วงเล่นเทนนิส บางท่านระหว่างการเล่นก็กินหมาก ต่อมาจึงนุ่งกางเกงขายาวและต้องมีสีขาวตามแบบฉบับของชาวต่างชาติ โดยถือว่าการเล่นเทนนิสต้องนุ่งกางเกงขาวสีขาวจึงจะเป็นการสุภาพมากกว่านุ่งกางเกงขาสั้น

                    ปี พ.ศ. 2455 ได้มีการจัดตั้งลอนเทนนิสสโมสรครั้งแรกขึ้นที่พระราชอุทยานสราญรมย์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้รับความร่วมมือจากชาวอังกฤษและอเมริกันที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยขณะนั้น โดยในเริ่มแรกมีสนามเทนนิส 2 สนาม และมีสมาชิกเริ่มต้นเพียง 10 คน ต่อมาเมื่อมีจำนวนสมาชิกมากขึ้นจึงได้ย้ายไปเล่นที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นิยมเล่นกันมากในขณะนั้น และยังมีสนามเทนนิสตามบ้านพักของชาวต่างชาติบางคน เช่น บ้านหมอแม็คฟาแลนด์ ซึ่งอยู่ข้างโรงพยาบาลศิริราช บ้านนายคอลลินส์ ที่กระทรวงเกษตร ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวอังกฤษและอเมริกัน ส่วนที่เป็นคนไทยนอกเหนือไปจากพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิยาลงกรณ์แล้ว ก็คือพระยาบำรุงนาวา (ชุบ สุนทรศารทูล) ซึ่งเป็นผู้ถวายการสอนเทนนิสให้กับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระยาบำรุงนาวายังเป็นคนไทยคนแรกที่สามารถขึ้นเอ็นไม้เทนนิสได้

                   ปี พ.ศ. 2460 ประชาชนชาวไทยให้ความสนใจเล่นเทนนิสกันมากขึ้น จึงได้มีการตั้งสโมสรเทนนิส เพิ่มขึ้น อาทิเช่น สโมสรบางกอกยูไนเต็ดคลับ ซึ่งเป็นสนามซีเมนต์เพียงสนามเดียว สโมสรบริษัทบอร์เนียว สโมสร บริษัทบอมเบย์เบอร์มา และยังมีการเล่นเทนนิสที่บ้านมิสเตอร์ลอฟตัส ซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนนายเรือ ธนบุรี และบ้าน มิสเตอร์บัสโฟร์ หลังกองทัพเรือ ส าหรับในหมู่คนไทยเช่นที่กระทรวงเกษตร และสโมสรโรงเรียนนายเรือ

                   ปี พ.ศ. 2463 ภายหลังกีฬาเทนนิสได้เผยแพร่มากขึ้น พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ มิสเตอร์ อาร์ ดี เคร็ก และ พระยาสุพรรณสมบัติได้เตรียมโครงการที่จะจัดตั้งลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

                    ปี พ.ศ. 2469 อันเป็นปีรุ่งจากปีเสวยราชสมบัติแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 สมาคมลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยได้รับการสถาปนาขึ้นโดยองค์พระประมุขของ ประเทศ ทรงเป็นผู้ริเริ่มและให้กำเนิดแก่สมาคม

                    ปี พ.ศ. 2470 พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ มิสเตอร์ อาร์ ดี เคร็ก และ พระยาสุพรรณ สมบัติได้ขอความร่วมมือไปยังสโมสรต่างๆ เพื่อจัดการประชุมขึ้นเป็นครั้งแรกครั้งแรกที่วังพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่น พิทยาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2470 และได้มีสโมสรต่าง ๆ ไปร่วมการประชุมรวม 12 สโมสร คือ ผู้แทน ราชกรีฑาสโมสร, สโมสรรถไฟ, สโมสรกีฬาสามัคยาจารย์, สโมสรอังกฤษ, สโมสรนครสวรรค์, สโมสรลำปาง, สโมสรสีลม, สโมสรรวรัฐ, สโมสรเชียงใหม่ยิมนาคา, สโมสรสงขลา, สโมสรกลาโหม และสโมสรภูเก็ต ในการประชุมครั้งนี้ที่ ประชุมลงมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดตั้งลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และได้ตราข้อบังคับของลอนเทนนิสสมาคม แห่งประเทศไทยฯ ใช้เป็นมาตรฐานทั่วไป และได้ใช้เป็นบรรทัดฐานต่อมาจนถึงปัจจุบัน ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จึงได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2470 และถือเป็นวันกำเนิดของลอนเทนนิสสมาคมฯ และพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ได้ทรงดำรงตำแหน่งนายกสมาคมตั้งแต่ พ.ศ. 2470 ถึง พ.ศ. 2482 เป็นเวลาถึง 12 ปีนอกจากนั้นลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ยังได้จัดการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรกที่สโมสรสีลม นอกจากนั้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงรับเอาลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องจากพระองค์ทรงโปรดกีฬาเทนนิสมากและทรง เทนนิสอยู่เสมอในสนามเทนนิสวังสุโขทัย จึงนับได้ว่าพระองค์ทรงเป็นบิดาแห่งวงการเทนนิสไทย ดังนั้นคณะกรรมการสมาคมจึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลขานุการกิตติมศักดิ์ไปจัดการออกแบบเครื่องหมาย โดยให้มีเลข 7 อยู่ภายใต้พระมหามงกุฎ เพื่อเป็นอนุสรณ์และระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแด่ผู้ทรงให้กำเนิดแก่สมาคม และกำหนดวันเทนนิสขึ้นวัน หนึ่งในทุก ๆ รอบปีโดยถือวันที่ 15 เมษายน ซึ่งตรงกับวันกำเนิดของลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ

                    ปี พ.ศ. 2495 ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แปลกติกาของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติเพื่อใช้ในการเล่น และแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรก

                    ปี พ.ศ. 2500 ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดการแข่งขันเทนนิส กว้างขวางมากขึ้น มีการแข่งขันเพื่อความชนะเลิศแห่งภาคขึ้นทุกภาค และคัดนักกีฬาที่ชนะเลิศเอามาแข่งขันเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็นหลายประเภท เช่น ประเภทชายเดี่ยว ประเภทชายคู่ ประเภทหญิงเดี่ยว ประเภทหญิงคู่ ประเภทคู่ผสม ประเภทชายเดี่ยวสูงอายุ (อายุ 50 ปีขึ้นไป) ประเภทชายคู่สูงอายุ (อายุรวมกัน 100 ปีขึ้นไป) เป็นต้น

                    ปี พ.ศ. 2509 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 5 มีการก่อสร้าง สนามเทนนิสและอัฒจันทร์ พร้อมห้องทำงาน ในบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติปทุมวัน ด้านหลังสนามศุภชลาศัย เพื่อใช้ในการแข่งขันเทนนิส และหลังจากเสร็จการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์แล้ว กรมพลศึกษาซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ได้อนุญาตให้ ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว และใช้เป็นที่ทำการของลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งประกอบด้วยห้องทำงานและสนามเทนนิสจำนวน 10 สนาม และต่อมาลอนเทนนิสสมาคมฯ ได้เปิดสนามเทนนิสให้กับประชาชนทั่วไปได้เข้าใช้บริการ

                    ปี พ.ศ. 2520 องค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย (การกีฬาแห่งประเทศไทย ในปัจจุบัน) ได้จัดสร้างสนามเทนนิส จ านวน 6 คอร์ท ขึ้นในบริเวณองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก และได้มอบให้ ลอนเทนนิสสมาคม แห่งประเทศไทยฯ เป็นผู้ครอบครองและใช้สนามเทนนิสนี้ให้เป็นประโยชน์ในการด าเนินกิจการของ ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯและได้สร้างอาคารที่ท าการให้แก่ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ที่สนามเทนนิสแห่งนี้อีกด้วย

                    ปี พ.ศ. 2520 องค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย (การกีฬาแห่งประเทศไทย ในปัจจุบัน) ได้จัดสร้างสนามเทนนิส จำนวน 6 คอร์ท ขึ้นในบริเวณองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก และได้มอบให้ ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เป็นผู้ครอบครองและใช้สนามเทนนิสนี้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินกิจการของ ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และได้สร้างอาคารที่ทำการให้แก่ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ที่สนามเทนนิสแห่งนี้อีกด้วย

                    ปี พ.ศ. 2521 เมื่อประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 8 ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้รับงบประมาณ สร้างสนามเทนนิสเพิ่มเติมอีก 2 คอร์ท และจัดหางบประมาณด้วยตนเอง เพื่อก่อสร้างอัฒจันทร์ สนามเทนนิสหัวหมาก รวมเป็น 8 คอร์ท

                    ปี พ.ศ. 2526 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2526 คหบดี คุณผาสุก และนางเง็ก มณีจักร ได้มีจิตเป็นกุศลยก ที่ดินภายในบริเวณเมืองทองธานี ให้กับลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ โดยมี พลตรีวีรินทร์ เบี้ยวไข่มุข นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ในขณะนั้นเป็นผู้รับมอบ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นที่ตั้งของลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และเพื่อกิจการเกี่ยวกับกีฬาเทนนิส โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้รับจะไม่นำที่ดินไปใช้ประโยชน์นอกจากที่ระบุ ไว้ และไม่จำหน่ายที่ดินให้แก่บุคคลใด ยกเว้นการแลกเปลี่ยนที่ดินเพื่อความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ข้างต้น และให้ได้ประโยชน์มากขึ้น โดยมีสิทธิแลกเปลี่ยนที่ดินได้เฉพาะแต่การแลกเปลี่ยนกับที่ดิน ในบริเวณเมืองทอง 3 เท่านั้น

                    ปี พ.ศ. 2528 การบูรณะซ่อมแซมสนามเทนนิสภายในบริเวณองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 10 ที่กรุงเทพมหานคร

                    ปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ในปลายปี พ.ศ. 2541 การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ก่อสร้างสนามกีฬาพร้อมอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ "ราชมังคลากีฬาสถาน" ขึ้นในบริเวณ การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก สนามเทนนิสบางส่วนถูกรื้อ เพื่อขยายถนนเป็นทางเข้า-ออก "ราชมังคลากีฬาสถาน" และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 กำหนดให้กีฬาเทนนิสในเอเชี่ยนเกมส์ทำการแข่งขันที่สนามเทนนิสศูนย์กีฬาเมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จึงต้องย้ายที่ทำการไปอยู่ที่สนามกีฬาไนติงเกล-โอลิมปิค ถนนรามอินทรา ด้วยความอนุเคราะห์ของ บริษัท ไนติงเกล-โอลิมปิค จำกัด และใช้สนามเทนนิสไนติงเกล-โอลิมปิค เป็นสถานที่จัดการแข่งขันของสมาคม ตั้งแต่เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2540

                    ปี พ.ศ. 2541 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยกีฬาเทนนิสจัดขึ้นที่ศูนย์กีฬาเมืองทองธานี ภายหลังการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 เสร็จสิ้นลง บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด เจ้าของพื้นที่ศูนย์กีฬาเมืองทองธานีได้มอบสนามเทนนิสศูนย์กีฬาเมืองทองธานี จำนวน 11 คอร์ท และอีก 1 เซ็นเตอร์คอร์ท พร้อมด้วยอาคารสระว่ายน้ำ ห้องสควอช และห้องพักอีก 10 ห้อง บนอาคารคอนโดมีเนียมตึกที 4 ที่อยู่ด้านข้างของ สนามเทนนิส ให้ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ครอบครองดูแล ใช้เป็นที่ทำการ และสนามจัดการแข่งขัน ตลอดจนเป็นศูนย์ฝึกเทนนิส และสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาทีมชาติและเยาวชน โดยมีการทำบันทึกสัญญาร่วมกัน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2542 มีกำหนดระยะให้ครอบครอง 5 ปี จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2547

                    ปี พ.ศ. 2547 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2547 ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ได้ย้ายที่ทำการไปยัง ที่ทำการพรรคชาติพัฒนา (ชั้น 3) เลขที่ 327 ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 โดยในอดีตคณะกรรมการบริหารลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ หลายชุด พยายามจะหางบประมาณ มาเพื่อทำการก่อสร้างที่ทำการลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จนในที่สุดเมื่อพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม 2547 ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ในสมัยนั้น ได้เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อเตรียมการก่อสร้างอาคารที่ทำการและสนามเทนนิส บริเวณที่ดินภายในเมืองทองธานี โดยมีนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลก มาเรีย ชาราโปรว่า ชาวรัสเซีย ร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์ด้วย

                    ปี พ.ศ. 2549 ในเดือน มีนาคม พ.ศ. 2549 ได้มีการย้ายที่ทำการลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากอาคารที่ทำการพรรคชาติพัฒนา จะต้องดำเนินการปรับปรุงอาคารให้เป็นที่ทำการของ สมาชิกวุฒิสภา โดยได้ย้ายที่ทำการไปยัง อาคาร FBT ชั้น 9 ถนนรามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพฯ

                    ปี พ.ศ. 2550 การก่อสร้างอาคารที่ทำการ สนามเทนนิส 11 สนาม และสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ ที่ครบถ้วน บริเวณที่ดินภายในเมืองทองธานี ได้เสร็จสิ้นลง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้าน บาท (โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากส านักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 50 ล้านบาท และคณะกรรมการ การกีฬามหาวิทยาลัย จำนวน 50 ล้านบาท) และใช้เป็นที่ตั้งถาวรของลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมทั้งการจัดตั้งเป็นศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ และได้ย้ายที่ทำการลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จากอาคาร FBT มาใช้พื้นที่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ เลขที่ 100 หมู่ที่ 9 เมืองทองธานีถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2550 เป็นที่ทำการแทน

                    ปี พ.ศ. 2551 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2551 ได้มีพิธีเปิดอาคารที่ทำการลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสนามเทนนิส 11 สนาม อย่างเป็นทางการ โดยมีสมเด็จพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานฝ่าย ฆราวาส นอกจากนั้นในช่วงบ่ายยังมีการจัดแข่งขันเทนนิสนัดพิเศษระหว่างบียอร์น บอร์ก กับจอห์น แม็คเอนโร เพื่อ เป็นการเฉลิมฉลองในพิธีเปิดดังกล่าวด้วย

                    ปี พ.ศ. 2553 ได้มีการตกลงความร่วมมือกันระหว่างลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สหพันธ์เทนนิสแห่งเอเซีย (ATF) และสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ในการจัดตั้งศูนย์พัฒนา กีฬาเทนนิสแห่งเอเซีย (Asian Tennis Center หรือ ATC) โดยใช้สถานที่และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานของศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี ซึ่งสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) จะให้การสนับสนุนในการจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษา และวางโปรแกรมการฝึกสอน เพื่อพัฒนานักเทนนิสในทวีปเอเซียให้ได้ทำการฝึกฝนในสถาบันการฝึกสอนเทนนิสที่มีมาตรฐานระดับสากล และพัฒนาขีดความสามารถให้แข่งขันกับนักเทนนิสอาชีพชั้นแนวหน้าของโลกในทวีปอื่น ๆ ได้ นอกจากนั้นศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งเอเซีย (ATC) ยังเป็นศูนย์กลางในการอบรม สัมมนา และพัฒนายกระดับมาตรฐานของบุคลากรเทนนิสต่าง ๆ จากประเทศสมาชิกสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย อาทิเช่น ผู้ฝึกสอน หรือผู้ตัดสิน เป็นต้น เนื่องจากนักกีฬาและบุคลากรเทนนิสในด้านต่าง ๆ จากทวีปเอเชีย ต้องเดินทางมายังศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งเอเชีย (ATC) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ที่พักอาศัยภายในบริเวณศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งเอเซีย (ATC) จึงมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งในการรองรับนักเทนนิสและบุคลากร อันเนื่องจากนักเทนนิสที่เข้ามา ฝึกที่ศูนย์จะมีหลายรุ่นอายุ โดยเฉพาะนักเทนนิสระดับเยาวชน จำเป็นต้องมีที่พักอยู่ภายในบริเวณศูนย์ อัน เนื่องมาจากความปลอดภัย และความสะดวกในด้านอาหารการกิน และความต่อเนื่องของการฝึกซ้อม จึงได้เริ่ม ก่อสร้างอาคารหอพักนักกีฬาของศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งเอเซีย (ATC) ขึ้น เพื่อใช้เป็นที่พักสำหรับนักกีฬาเทนนิส ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น มีห้องพักจำนวน 30 ห้อง (ห้องพัก 2 เตียง 5 ห้อง และห้องพัก 4 เตียง จำนวน 25 ห้อง) ห้องประชุม 2 ห้อง และห้องสันทนาการ 1 ห้อง โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2553 แล้วเสร็จวันที่ 1 สิงหาคม 2554 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างจำนวน 20 ล้าน บาท จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

                    นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงเพิ่มเติมชั้น 3 ของอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างให้เป็นที่ทำการ ของศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งเอเซีย (ATC) โดยได้มีพิธีเปิดอาคารที่ทำการและหอพักศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่ง เอเซีย (ATC) ขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2554 โดยมี ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ Mr.Anil Khanna ประธานสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (ATF) และ Mr.Ricci Bitti ประธานสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF) ร่วมทำพิธีเปิดผ้าแพรคลุมป้ายศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งเอเซีย (ATC) ทั้งนี้ ได้มีนายกสมาคมเทนนิสต่าง ๆ จากทั่วโลก ที่เดินทางมาร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF ANNUAL GENERAL MEETING 2011) ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นจ้าภาพจัดการประชุม ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

                    ปี พ.ศ. 2558 โดยที่พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ 2528 ได้ใช้บังคับมาเป็น เวลานาน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ตราพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ขึ้นใหม่ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 ซึ่งในมาตรา 57 สมาคมกีฬาต้องใช้ชื่อซึ่งมีคำว่า “สมาคมกีฬา” ประกอบกับชื่อของ สมาคมกีฬาด้วย ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงมีหนังสือถึงราชเลขาธิการเพื่อขอนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ในการแก้ไขชื่อจาก “ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” เป็น “สมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” และ ราชเลขาธิการได้นำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว

                    ผู้ดำรงตำแหน่งนายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นับแต่การ สถาปนาลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย วงการเทนนิสไทยมีผู้ดำรงตำแหน่งนายกลอนเทนนิสสมาคมฯ มาแล้ว 17 คน ดังนี้

1. พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ระหว่าง พ.ศ. 2470 – 2482 
2. พลเอก หลวงพรหมโยธี ระหว่าง พ.ศ. 2482 – 2484 
3. พันตำรวจโท ขุนศรีศรากร ระหว่าง พ.ศ. 2484 – 2490 
4. หม่อมเจ้าวิมวาทิตย์รพีพัฒน์ ระหว่าง พ.ศ. 2490 – 2494 
5. นายชุณห์ ปิณฑานนท์ ระหว่าง พ.ศ. 2494 – 2495 
6. นายเมืองเริง วสันตสิงห์ ระหว่าง พ.ศ. 2495 – 2505 
7. นายแพทย์บรรจง กรลักษณ์ ระหว่าง พ.ศ. 2506 – 2507 
8. พลเอก กฤษณ์ สีวะรา ระหว่าง พ.ศ. 2507 – 2519 
9. พลตรี วีรินทร์ เบี้ยวไข่มุข ดำรงตำแหน่งนายกสมาคม 2 ช่วง คือ ระหว่าง พ.ศ. 2519-2522 และ พ.ศ. 2524-526 
10. พลเรือตรี วินัศ ศิริกายะ ระหว่าง พ.ศ. 2522 – 2524 
11. นายวารินทร์ พูนศิริวงศ์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคม 3 ช่วง คือ ระหว่าง พ.ศ. 2526 - 2528 พ.ศ. 2532 - 2534 และ พ.ศ. 2536–2538 
12. พันเอก สุรพิชญ์ อมรวิเชษฐ์ ระหว่าง พ.ศ. 2528 – 2532 
13. นายสมจิตร ทองประดับ ระหว่าง พ.ศ. 2534 – 2536 
14. พลเอก สายหยุด เกิดผล ระหว่าง พ.ศ. 2538 – 2540 
15. พลเอก อัครเดช ศศิประภา ระหว่าง พ.ศ. 2540 – 2544 
16. ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ระหว่าง พ.ศ.2544 – 23 มกราคม 2559 
17. นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล ระหว่างวันที่ 23 มกราคม 2559 – ปัจจุบัน



การใช้สัญญาณมือ ผู้ตัดสินเทนนิส (Chair umpire hand signals)





 การใช้สัญญาณมือ ผู้ตัดสินเทนนิส (Chair umpire hand signals)

                    การใช้สัญญาณมือเป็นการยืนยันสิ่งที่ผู้ตัดสิน ตัดสินใจในเหตุการณ์ของข้อเท็จจริง เช่น ลูกลงหรือลูกออก โดยปกติแล้วลูกที่ออกผู้ตัดสินต้องขานเพื่อให้ผู้เล่นหยุดการเล่น แต่บางครั้งที่ผู้เล่นไม่แน่ใจ ในกรณีที่ลูกที่ลงหรือออกใกล้เส้นมาก ๆ หรืออยู่ในช่วงเวลาที่ผู้เล่นไม่ได้ยินเสียงขาน มักจะมีคำถามว่าลงหรือออกจากนักกีฬาเสมอ ดังนั้นการใช้สัญญาณมือจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะย้ำการตัดสินใจให้นักกีฬาทราบ อันจะเป็นการยุติการสอบถามที่จะตามมา การใช้สัญญาณมือ ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ แต่จะใช้เฉพาะที่จำเป็น ในเทคนิคนี้ผู้ตัดสินจะต้องใช้วิจารณญาณว่า เหตุการณ์ใดที่ผู้เล่น น่าจะสงสัยในการตัดสินว่าลูกลงหรือออกของผู้ตัดสิน



#กติกาเทนนิส...

การประกาศ (Announcement)




 การประกาศ (Announcement)


                    ผู้ตัดสินต้องประกาศในการแข่งขันเป็นภาษาอังกฤษและหรือภาษาของประเทศนั้น สำหรับการ แข่งขันในเมืองไทยนิยมประกาศและสกอร์เป็นภาษาไทย นอกเหนือจากนั้นประกาศเป็นภาษาอังกฤษ การประกาศ หรือการขานคะแนนต้องพูดด้วยเสียงชัดเจน เพื่อให้นักกีฬาทั้งสองฝ่าย และผู้ชมภายนอกสนามได้ยิน อย่างไรก็ตามการใช้เสียงต้องคำนึงถึงการรบกวนสนามข้างเคียง หากต้องมีการใช้สนามแข่งขันมากว่า 1 สนามติดกัน การใช้เครื่องขยายเสียงใด ๆ ผู้ตัดสินต้องตรวจสอบการทำงานและระดับความดัง ก่อนที่จะมีการแข่งขันเสมอ

                    6.1 การประกาศในการแข่งขัน

                    6.1.1 วอร์ม

                    “สามนาที” [three minutes] เมื่อเหลือเวลาวอร์ม 3 นาที
                    “สองนาที” [Two minutes] เมื่อเหลือเวลาวอร์ม 2 นาที
                    “หนึ่งนาที” [one minute] เมื่อเหลือเวลาวอร์ม 1 นาที
                    “สามสิบวินาที” [thirty second] เมื่อเหลือเวลาวอร์ม 30 วินาที
                    “End of The Warm up” เมื่อหมดเวลาวอร์ม
                    “time” [time, prepare to play] เพื่อให้นักกีฬาพร้อมเล่นแต้มแรก
                    และส่งลูกไปยังฝั่งผู้เสิร์ฟ “…………………………………..to serve, play

                    6.1.2 การประกาศแมทซ์การแข่งขัน

                    ก. ถ้าการประกาศแมทซ์โดยผู้ตัดสิน หลังจากขาน “หนึ่งนาที” ให้ ประกาศว่า

                    “This is ……………………round match between to the left of the chair……………………and to the right of the chair…………………The best of three/five tie break sets……………………won the toss and chose to……………………”

                    “ (ชื่อรายการ) ประเภท................รอบ................ระหว่างซ้ายมือผู้ ตัดสิน (ชื่อนักกีฬา) และขวามือผู้ตัดสิน (ชื่อนักกีฬา) แข่งขันระบบ (2 ใน 3 เซท/ ช๊อตเซท) ไทเบรกทุกเซท (ชื่อนักกีฬา) ชนะเสี่ยง เลือก...............”

                    ข. ถ้ามีการประกาศแมทซ์โดยฝ่ายจัดการแข่งขัน ให้ประกาศว่า

                       “……………………won the toss and chose to……………………”                  

                    6.1.3 การควบคุมผู้ชม

                    ผู้ตัดสินควรมีวิธีการบอกให้ผู้ชมอยู่ในภาวะที่จะไม่เกิดเหตุการณ์ที่จะรบกวน การเล่นของนักกีฬาโดยมีวิธีพูดดังตัวอย่าง

                    “Quiet please thank you”
                    “Please be seated, thank you”
                    “Seats quickly, please”
                    “As a courtesy to both players”
                    “No flash photography, please”

                    6.1.4 สกอร์

                    ก. การขานคะแนนจะต้องขานคะแนนของผู้เสิร์ฟก่อนเสมอ ยกเว้นคะแนน ไท-เบรก ให้ขานคะแนนผู้นำ

                    ข. การขานคะแนน

                    “Fifteen-Love [15-0], Love-Fifteen [0-15], Thirty-Love[30-0],
                    Forty-Love [40-0], Love-Forty [0-40], Fifteen-all [15-15],
                    Fifteen-Thirty [15-30], Thirty-Fifteen [30-15], Fifteen-Forty [15-40],
                    Forty-Fifteen [40-15], Thirty-all [30-30], Thirty-Forty [30-40],
                    Forty-Thirty [40-30], Deuce, Advantage…….……,Game…..………….

                    ค. ถ้าการแข่งขันใช้ระบบดิวซ์คะแนนเดียว (No-Ad Scoring System) หลังจากการขาน “ดิวซ์” ให้ขานดังนี้ “Deciding point, receiver’s choice” (แต้มตัดสิน ฝ่ายรับเลือกรับ)

                    ง. การขานคะแนนควรจะขานให้ดัง และชัดเจนเพียงพอที่ผู้เล่น และผู้ชมจะได้ยิน หลังจากจบคะแนน การขานควรจะเร็วและขานก่อนที่จะบันทึกคะแนนใน แผ่นบันทึก เว้นแต่ในบางครั้งที่เป็นคะแนนที่ตื่นเต้นและผู้ชมส่งเสียงดัง หลังจากจบคะแนนการขานอาจล่าช้าออกไปเพื่อให้การขานคะแนนของผู้ตัดสินทับกับเสียงของผู้ชมรอบสนาม แต่การขานในกรณีนี้ต้องขาน เน้นเป็นพิเศษ (สำหรับการขานในการแข่งขันในสนามดิน ให้ดูเรื่อง การชี้จุดลูกตก)

                    จ. หลังจากจบเกมหรือเซต การขานจะเป็นดังตัวอย่าง

                    “Game Smith, Smith (Jones) leads 4-2, first set”
                    “Game Smith, 3 games all, first set”
                    “Game and first set Smith, 6 games to 4 (จบเซทแรก)
                    “Game and third set Jones, 7games to 5(จบเซทสอง) , 1sets all” (กรณีเมื่อ 1 เซทเท่ากัน)
                    “Game-Set-MatchSmith, 2-1 Set 6-4, 5-7, 6-2”(จบการแข่งขัน)

                    ฉ. ถ้าการแข่งขันดำเนินไปจนถึงไท-เบรก การขานจะเป็นดังนี้

                    “Game Smith, 6 games all, Tie-break”

                    ช. ระหว่างเล่นไท-เบรก การขานสกอร์ต้องขานคะแนนก่อนแล้วจึงขาน ชื่อผู้เล่นที่มีคะแนนนำในคะแนนไท--เบรก เช่น

                    “1-0 Jones” or
                    “1-all”
                    “2-1 Smith”

                    ให้ประกาศคำว่า "Zero" แทน "0" ในการขานคะแนนในไท-เบรก หลังจากปรากฏผลแพ้ชนะในเกมไท-เบรก การขานจะเป็นดังนี้

                    “Game and……"first or second"…………set……"Jones".…. 7-6”

                    6.1.5 Medical Time Out (เวลาบาดเจ็บ)

                    ก. เมื่อมีการเรียกนักกายภาพหรือ Physio มาที่สนาม

                    “The Physio has been called to the court”

                    ข. เมื่อนักกายภาพ หรือ Physio วินิจฉัยอาการเสร็จและเริ่มทำการรักษา

                    “Mr./Ms………..Is now receiving a medical time out” ( 3 นาที)
                    “Two minutes remaining” (เหลือเวลารักษา 2 นาที)
                    “One minute remaining” (เหลือเวลารักษา 1 นาที)
                    “Thirty seconds remaining” (เหลือเวลารักษา 30 วินาที)
                    “Treatment complete” (เมื่อการรักษาเสร็จสิ้น)

                    เมื่อเวลาของการรักษาเสร็จสิ้น ผู้เล่นจะมีเวลาตามสมควรในการ สวมใส่เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้าในกรณีที่ต้องถอดออกเพื่อการปฐมพยาบาล หลังจากนั้นผู้ตัดสิน จะขาน “Time”

                    ถ้าผู้เล่นไม่เล่นต่อภายใน 30 วินาที หลังจากที่ขาน Time ไปแล้ว นักกีฬา จะถูกลงโทษเนื่องจากความล่าช้าในการแข่งขัน

                    ถ้าการปฐมพยาบาลเกิดขึ้นในช่วงพักเปลี่ยนข้างหรือพักเซต เวลาปฐมพยาบาลจะนับหลังจากที่เวลาของการพักจบลง

                    อย่างไรก็ตามการประกาศที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น อาจจะแตกต่างในคำพูด หรือลักษณะของการใช้งานแล้วแต่ธรรมชาติของผู้ตัดสินคนนั้น ๆ การประกาศต้องดำเนินไปด้วยความกระชับและมีจังหวะน้ำสียงที่ดี เช่น การประกาศหรือการขานในระหว่างการแข่งขันที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก การขานอาจต้องรอให้เสียงผู้ชมซาลงก่อนถึง ขาน หรือขานก่อนที่ผู้ชมจะส่งเสียงเชียร์ เป็นต้น การใช้ระดับเสียงสูงต่ำก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมและมีอารมณ์คล้อยตามในระหว่างการแข่งขัน ผู้ตัดสินที่ดีควรหมั่นฝึกฝน และหาประสบการณ์จากผู้ตัดสินที่มีระดับสูงกว่าอยู่เสมอ

                    6.2 คำที่ใช้ในการขาน

                    การขานจะต้องดังและชัดเจน โดยมีคำที่ใช้เป็นประจำ ดังนี้

                    6.2.1 “Fault” เมื่อลูกเสิร์ฟลูกแรกและลูกที่สองออกนอกพื้นที่เสิร์ฟ ห้ามขาน ในกรณีที่ลูกเสิร์ฟไม่ข้ามตาข่าย และไม่ต้องขาน “double fault” ในกรณีที่ ผู้เสิร์ฟเสียสองลูกติดกัน

                    6.2.2 “Out” เมื่อลูกที่อยู่ในการเล่นออกนอกสนามหรือกระทบสิ่งติดตั้งถาวร ที่อยู่นอกสนาม

                    6.2.3 “Let” เมื่อลูกเสิร์ฟถูกตาข่ายและข้ามตาข่ายไปลงในพื้นที่เสิร์ฟ

                    6.2.4 “Through” เมื่อลูกบอลลอดตาข่าย

                    6.2.5 “Foot Fault” เมื่อผู้เล่นทำผิดกฏในการเสิร์ฟ

                    6.2.6 “Let” เมื่อผู้ตัดสินเห็นควรว่าจะเล่นคะแนนนั้นใหม่หรือลูกเสิร์ฟควรจะเสิร์ฟใหม่ ตามกฎของกติกาเทนนิส

                    6.2.7 “Not Up” เมื่อลูกกระดอนพื้น 2 ครั้ง

                    6.2.8 “Foul shot” เมื่อผู้เล่นตีลูก 2 ครั้ง หรือตีลูกก่อนที่ลูกจะข้ามตาข่าย

                    6.2.9 “Touch” เมื่อผู้เล่นหรือชุดที่สวมใส่สัมผัสลูกหรือตาข่ายระหว่างการแข่งขัน หรือลูกที่อยู่ในการเล่นสัมผัสถูกตัวผู้เล่นหรือสิ่งที่ผู้เล่นสวมใส่ หรือ อุปกรณ์หรือสิ่งที่ผู้เล่นสวมใส่ข้ามไปตกในแดนคู่ต่อสู้

                    6.2.10 “Hindrance” เมื่อผู้เล่นไปขัดขวางคู่ต่อสู้ตามกฏกติกาเทนนิส

                    6.2.11 “Wait please” เมื่อมีสิ่งที่เข้ามาขัดขวางก่อนที่จะมีการเล่นคะแนนนั้น หรือก่อนการเสิร์ฟลูกที่สอง

                    6.2.12 “Correction" (Overrule) เมื่อกลับคำตัดสินจากลูก "ออก" เป็นลง ให้ใช้คำว่า Correction the ball was good และให้ใช้คำว่า Out หรือ Fault เมื่อกลับคำตัดสินจาก “ลง” เป็น “ออก” โดยการขานนั้นจะต้องทำทันทีทันใด



#กติกาเทนนิส...
                    




การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส







 การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส

1. หน้าที่ผู้ตัดสิน ผู้กำกับเส้น และผู้ตัดสินชี้ขาด

                    ผู้ตัดสิน ผู้กำกับเส้น และผู้ตัดสินชี้ขาด จะทำหน้าที่ในส่วนที่แต่ละฝ่ายรับผิดชอบ เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตามการทำงานดังกล่าวจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันเปรียบเสมือนเป็นทีมเดียวกัน ไม่มีการขัดแย้งกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินในภาคสนาม ควรจะเคารพในหน้าที่ที่แต่ละฝ่ายได้ตัดสินลงไป หากเกิดข้อโต้แย้งในการตัดสินใจ การตัดสินจะเป็นไปตามลำดับความรับผิดชอบที่แต่ละฝ่ายพึงมีสิทธิ์

                    การเป็นผู้ตัดสินที่ดี จะต้องมีเทคนิคเบื้องต้นและวิธีปฏิบัติในการทำหน้าที่ เป็นผู้ตัดสินเทนนิสที่ดีและถูกต้อง รวมถึงความรู้ในกฏกติกาของเทนนิส รวมถึงระเบียบการแข่งขันในแต่ละประเภทของการแข่งขันและการควบคุม ที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำหน้าที่ผู้ตัดสินเทนนิส ในแต่ละปีกฏและกติกาเทนนิสมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ผู้ตัดสินเองต้องหาความรู้เพิ่มเติมและใส่ใจสิ่งเหล่านี้ด้วย ซึ่งทำให้ผู้ตัดสินมีการพัฒนาตัวเองอันจะนำไปสู่การเป็นผู้ตัดสินในระดับที่สูงขึ้นในอนาคต

2. การประท้วงเกี่ยวกับกฏ กติกาเทนนิส

                    ผู้เล่นมีสิทธิ์ร้องขอการตัดสินเกี่ยวกับกฏ กติกาเทนนิสต่อผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินจะหยุดการแข่งขัน และพิจารณาตัดสินในข้อสงสัยเบื้องต้น หากผู้ตัดสินไม่แน่ใจหรือผู้เล่นยังมีข้อสงสัยในคำตัดสินนั้น สามารถร้องขอผู้ตัดสินชี้ขาดเข้ามาในสนาม ผู้ตัดสินต้องชี้แจงกฏกติกาต่อผู้เล่น และผู้ตัดสินและพิจารณาตัดสินข้อสงสัยดังกล่าว และการตัดสินของผู้ตัดสินชี้ขาดถือเป็นที่สิ้นสุด และผู้เล่นจะต้องทำการแข่งขันต่อภายใน 25 วินาที หลังจากผู้ตัดสินขาน “Let’s Play”

3. การประท้วงเกี่ยวกับข้อเท็จจริง

                    3.1 การประท้วง ผู้เล่นมีสิทธิ์ประท้วงการตัดสินที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ระหว่างการแข่งขันอันเกิดจากการตัดสินหรือผู้กำกับเส้น โดยประท้วงไปยังผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินจะต้องยืนยันการตัดสินนั้น และควรจะให้เสร็จสิ้นภายใน 25 วินาที และทำการแข่งขันต่อทันที ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นต้องมีการอธิบายที่มากขึ้น อาจใช้เกินกว่า 25 วินาที จะต้องทำการแข่งขันต่อหลังจากผู้ตัดสินขาน “Let’s Play” โดยการตัดสินของผู้ตัดสินเป็นที่สิ้นสุด ผู้เล่นจะร้องขอผู้ตัดสินชี้ขาดไม่ได้

                    3.2 การกลับคำตัดสิน ผู้ตัดสินอาจกลับคำตัดสินของผู้ตัดสินหรือผู้กำกับเส้นเฉพาะในกรณีที่ความผิดพลาดของผู้กำกับเส้น ผู้กำกับเส้นอาจแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยตัวเอง โดยการกลับคำตัดสินทุกกรณีจะต้องทำอย่างรวดเร็ว และทันทีทันใด

                    เป็นการยากที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามผู้ตัดสินจะต้อง อยู่ใน ตำแหน่งที่จะต้องตัดสินข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้พ้นจากข้อสงสัย ผู้ตัดสินไม่ควรกลับคำตัดสิน ในกรณีที่ลูกลงหรือออกใกล้เส้นมาก ๆ จนไม่สามารถตัดสินใจได้ การกลับคำตัดสินจาก “ลง” เป็น “ออก” ผู้ตัดสินจะต้องสามารถเห็นช่องว่างระหว่างลูกกับเส้นได้ การกลับคำตัดสินจาก “ออก” เป็น “ลง” ผู้ตัดสินจะต้องสามารถเห็นลูกตกในเส้นได้

                    การขานฟุตฟอลท์ “foot faults” จะต้องทำอย่างคงเส้นคงวา ผู้ตัดสินสามารถขานฟุตฟอลท์ได้ในกรณีที่เห็นอย่างชัดเจน

                    การกลับคำตัดสินจะต้องทำทันทีทันใดที่พบข้อผิดพลาด ผู้ตัดสินไม่สามารถกลับคำตัดสินได้ หลังจากผู้เล่นคัดค้านหรือประท้วง ผู้กำกับเส้นไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้ หลังจากผู้เล่นคัดค้านหรือประท้วง

                    3.3 การชี้จุดลูกตก การชี้จุดลูกตกจะทำได้เฉพาะการแข่งขันในสนามดินเท่านั้น (Clay Court) เมื่อผู้เล่นร้องขอการชี้รอยหลังจากแต้มจบหรือผู้เล่นหยุดเล่นที่แต้มนั้น ผู้ตัดสินจะต้องลงมาตรวจสอบรอยลูกตกด้วยตัวเอง หากผู้ตัดสินไม่สามารถหารอยลูกตกได้อาจให้ผู้กำกับเส้นช่วยชี้จุดที่ตกได้ แต่ผู้ตัดสินจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบแต้มที่เล่นไปแล้วจะยังคงไว้หากผู้ตัดสินหรือผู้กำกับเส้นไม่สามารถหารอยลูกตกได้หรือรอยลูกตกเลือนรางเกินไป ดังนั้นในการใช้สนามดินในการแข่งขัน ผู้ตัดสินจะไม่ขานสกอร์เร็วมากนัก ยกเว้นกรณีที่เห็นและตัดสินได้อย่างชัดเจน ถ้าผู้เล่นลบรอยลูกตกถือว่าเป็นลูกที่ดี ถ้าหากผู้เล่นข้ามไปชี้รอยลูกตกในฝั่งตรงข้ามจะมีความผิดว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักกีฬา

4. การเริ่มต้นของการแข่งขัน

                    การเริ่มต้นของการแข่งขันอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นเมื่อการเสิร์ฟแต้มแรกของแมทซ์แรก

5. การหยุดรอการแข่งขัน และการเลื่อนการแข่งขัน

                    หากในระหว่างการแข่งขันเกิดปัญหาจากความมืดอาจจะเนื่องด้วยสภาพสนามหรือสภาพภูมิอากาศ ผู้ตัดสินหรือผู้ตัดสินชี้ขาดสามารถเลื่อนการแข่งขันออกไปได้ การหยุดการแข่งขันโดยผู้ตัดสิน จะต้องแจ้งผู้ตัดสินชี้ขาดทุกครั้งระหว่างที่การแข่งขันหยุดรอจนกระทั่งประกาศเลื่อนการแข่งขัน โดยผู้ตัดสินชี้ขาด ผู้เล่น ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่สนาม จะต้องพร้อมเพื่อที่จะทำการแข่งขันต่อ ผู้ตัดสินชี้ขาดหรือคณะกรรมการจัดการแข่งขันจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลื่อนการแข่งขันออกไปแข่งขันในวันถัดไปหรือไม่

                    การเลื่อนการแข่งขันเนื่องจากความมืดควรจะทำในตอนจบเซต หรือให้การแข่งขันดำเนินไปจนจบเกมคู่

                    หากมีการเลื่อนการแข่งขัน ผู้ตัดสินจะต้องบันทึกเวลา แต้ม เกม และเซต ชื่อผู้เสิร์ฟ แดนที่ผู้ เสิร์ฟอยู่ และเก็บลูกที่ใช้แข่งขันไว้เพื่อดำเนินการแข่งขันต่อ

                    ในกรณีที่หยุดรอการแข่งขันหรือเลื่อนการแข่งขัน เมื่อกลับมาทำการแข่งขันใหม่ จะต้องมีการวอร์มใหม่ตามเวลา ดังนี้

                                        หยุดการแข่งขัน 0 - 15 นาที ไม่มีการวอร์ม
                                        หยุดการแข่งขัน 15 - 30 นาที วอร์ม 3 นาที
                                        หยุดการแข่งขันมากกว่า 30 นาที วอร์ม 5 นาที



#กติกาเทนนิส...
 

มาตรฐานวิชาชีพผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส







 มาตรฐานวิชาชีพผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส

                    ประกอบด้วยมาตรฐาน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ ด้านการปฏิบัติงานและด้านการปฏิบัติตน รวมทั้งสิ้น 15 มาตรฐาน ดังนี้

1) มาตรฐานด้านความรู้ แบ่งออกเป็น 3 มาตรฐานย่อย คือ 
        มาตรฐานที่ 1 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเป็นผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส 
        1.1 ปรัชญา คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณขอผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส 
        1.2 บทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบ 
        1.3 กระบวนการและขั้นตอนของการตัดสินกีฬา 
        1.4 การควบคุมการแข่งขัน 
        1.5 กฏหมายที่เกี่ยวข้อง

        มาตรฐานที่ 2 มีความรู้เกี่ยวกับเทนนิส 
        2.1 กฏ กติกา และระเบียบวิธีการแข่งขันอย่างถูกต้องทันสมัย 
        2.2 หลักการและระบบการจัดการแข่งขัน 
        2.3 วิธีการควบคุมการแข่งขัน 
        2.4 พื้นฐานความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะและเทคนิคกีฬาที่ตัดสิน

        มาตรฐานที่ 3 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬาและเรื่องข้องกับกีฬาเทนนิส 
        3.1 วิทยาศาสตร์การกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส 
        3.2 จิตวิทยาสำหรับผู้ตัดสินกีฬา 
        3.3 ความปลอดภัย การบาดเจ็บจากการกีฬาและการปฐมพยาบาล

2) มาตรฐานด้านปฏิบัติงานมาตรฐานที่ 4 ปฏิบัติหน้าที่ผู้ตัดสินกีฬาเทนนิสได้อย่างถูกต้อง 
        4.1 สามารถนำความรู้ด้านระเบียบและกฏกติกาการแข่งขันไปใช้ได้อย่างถูกต้องและยุติธรรม 
        4.2 ปฏิบัติตามขั้นตอนการตัดสินและตัดสินได้ถูกต้องตามกติกาการแข่งขัน 
        4.3 ตรวจสอบความถูกต้องของสนาม อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขันและอุปกรณ์ของนักกีฬา รวมถึง ความถูกต้องของโลโก้และชุดของนักกีฬา
        4.4 ใช้เครื่องมือในการตัดสินได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ 
        4.5 สื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ 
        4.6 ปฏิบัติได้ถูกต้องเกี่ยวกับตำแหน่งการยืน ท่าทาง การให้สัญญาและการใช้สัญญาณมือ 
        4.7 สามารถหยุดการเล่นและยุติการแข่งขันได้เหมาะสมตามสถานการณ์ 
        4.8 สามารถควบคุมเกมการแข่งขันได้ 
        4.9 สามารถเขียนรายงานการแข่งขันได้อย่างถูกต้อง

        มาตรฐานที่ 5 สามารถบริการจัดการการตัดสินกีฬาเทนนิสได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
        5.1 สามารถจัดระบบการแข่งขันกีฬาเทนนิส 
        5.2 สามารถประสานความร่วมมือระหว่างผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่อื่นๆ 
        5.3 สามารถจัดเตรียมอุปกรณ์และเอกสารที่จำเป็นในการตัดสินอย่างเป็นระบบ 
        5.4 สามารถวางแผนขั้นตอนการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน

        มาตรฐานที่ 6 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ 
        6.1 มีความน่าเชื่อถือ 
        6.2 โปร่งใส 
        6.3 ยุติธรรม 
        6.4 ไม่เปิดเผยความลับของแต่ละฝ่าย 
        6.5 ไม่รับผลประโยชน์จากผู้อื่นและไม่รับของขวัญหรือสินบนจากฝ่ายใด ๆ

        มาตรฐานที่ 7 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยมาตรฐานสูงสุดตามมาตรฐานสากล 
        7.1 ตั้งใจปฏิบัติหน้าอย่างเต็มความสามารถ 
        7.2 มีความรับผิดชอบต่อการตัดสิน 
        7.3 รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

        มาตรฐานที่ 8 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบต่อวิชาชีพ 
        8.1 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเอาใจใส่ตามมาตรฐานวิชาชีพ 
        8.2 ปฏิบัติหน้าที่โดยมีมาตรฐานเดียวกัน 
        8.3 ยึดมั่นในปรัชญาของการเป็นผู้ตัดสินกีฬา 
        8.4 ให้ความร่วมมือในการให้คำปรึกษากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 
        8.5 ยอมรับและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกฝ่าย

        มาตรฐานที่ 9 ปฏิบัติหน้าที่โดยให้เกียรติและเคารพต่อผู้อื่น 
        9.1 เคารพในสิทธิพื้นฐานของผู้อื่น 
        9.2 คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลในเรื่องสังคม เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม เพศ และอายุ 
        9.3 ให้เกียรติกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 
        9.4 ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียมกัน

3) มาตรฐานด้านปฏิบัติตน เรื่อง การปฏิบัติต่อตนเอง 
        มาตรฐานที่ 10 การดูแลรักษาสุขภาพและเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 
        10.1 ออกกำลังและเสริมสร้างสมรรถภาพกายเป็นประจำ
        10.2 ตรวจสุขภาพและทดสอบสมรรถภาพทางกายเป็นประจำ

        มาตรฐานที่ 11 มีความกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง 
        11.1 เสริมสร้างบุคลิกภาพและแต่งกายให้เหมาะสมกับการเป็นผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส 
        11.2 เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้พัฒนาตนและพัฒนางาน 
        11.3 หมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ 
        11.4 มีภาวะผู้นำ ผู้ตาม และมีความเชื่อมั่นในตัวเอง 
        11.5 ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างให้กับผู้ตัดสินคนอื่น ๆ

        เรื่อง การปฏิบัติต่อผู้อื่น 
        มาตรฐานที่ 12 มีมนุษย์สัมพันธ์ดี 
        12.1 มีความเป็นมิตรกับผู้อื่น 
        12.2 ไม่กล่าวร้ายและไม่นำข้อเสียของผู้อื่นไปเผยแพร่ต่อ 
        12.3 สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

        มาตรฐานที่ 13 วางตัวได้อย่างเหมาะสม 
        13.1 มีสัมมาคารวะ 
        13.2 รู้จักกาลเทศะ 
        13.3 ปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นได้ 
        13.4 มีความอดทน อดกลั้น 
        13.5 ควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดีในทุกสถานการณ์

        มาตรฐานที่ 14 สื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
        14.1 สามารถสื่อสารกับนักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง 
        14.2 สื่อสารกับผู้อื่นด้วยวาจาและการกระทำที่เหมาะสม 
        14.3 สามารถสื่อภาษาอังกฤษได้

        มาตรฐานที่ 15 ยึดมั่นและศรัทธาในวิชาชีพ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
        15.1 มีความยุติธรรม ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ตัดสินเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 
        15.2 มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และยอมรับการกระทำที่ ผิดพลาด 
        15.3 มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา ปฏิบัติตามกฏ ระเบียบ ข้อบังคับของการเป็นผู้ตัดสินอย่างถูกต้อง
        15.4 ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และลุ่มหลงในอบายมุข 
        15.5 ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นหรือหาวิธีการที่จะได้รับผลประโยชน์จากผู้ตัดสินด้วยกัน เพื่อความก้าวหน้าอย่างไม่ถูกต้อง




#กติกาเทนนิส...


หลักการปฏิบัติของผู้ตัดสินเทนนิส (Chair Umpire) เมื่ออยู่นอกสนามแข่งขัน และในสนามแข่งขัน




กรรมการผู้ตัดสิน (Chair Umpire)


หลักการปฏิบัติของผู้ตัดสินเทนนิส (Chair Umpire) เมื่ออยู่นอกสนามแข่งขัน และในสนามแข่งขัน

ข้อแนะนำในการปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้ตัดสินเทนนิส (นอกสนามแข่งขัน)


วางตัวให้เหมาะสม แต่งกายให้ถูกต้องตามลักษณะของการเป็นผู้ตัดสินกีฬา มีความ ประณีต ความสะอาด เกิดความศรัทธาแม้แต่เพียงแค่การมอง ผู้ตัดสินควรมีการแสดงออก ดังนี้ 

1. เป็นผู้ที่มีลักษณะท่าทางการวางตัวอยู่ในท่าทีสง่างาม อยู่ในชุดตัดสินที่สะอาด ประณีต เรียบร้อย

2. เป็นผู้ที่มีกิริยามารยาท ไว้ศักดิ์ศรี เด็ดขาด ไม่ประหม่า เงียบขรึมแต่สุภาพ การแสดงออก ถึงความพึงพอใจ ความเข้าใจ การโอภาปราศรัยกับผู้ฝึกสอน และ/หรือ ผู้เข้าแข่งขัน เท่าที่จำเป็น จะต้องไม่หยอกล้อ ขณะนั่งพักรอปฏิบัติหน้าที่คู่ต่อไป 

3. ไม่พูดจาโอ้อวดตัว อวดเด่นกับผู้ตัดสินด้วยกัน ควรพูดแต่ในสิ่งที่สร้างสรรค์เป็นเรื่องที่เป็นความจริง อย่าพูดลับหลังที่อาจจะทำให้เกิดความแตกแยก ขาดความสามัคคี 

4. เป็นผู้ที่ต้องแสดงออกถึงการให้ความร่วมมือกับผู้อื่นด้วยความเต็มใจ และยินดี ที่จะให้ความช่วยเหลือเมื่อได้รับการขอร้องจากผู้เข้าแข่งขัน ผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสินคนอื่นๆ ไม่อนุญาตให้นำบุคคลอื่นๆ ที่มิใช่ผู้ตัดสินเข้ามาคุยในห้องส่วนตัว 

5. ต้องรู้จักการให้เกียรติผู้ตัดสินด้วยกัน ต้องเคารพกันและกัน จะต้องมีความเป็นพี่ เป็นน้อง มีผู้อาวุโส ไม่แสดงความเห็นแก่ตัว

6. การปฏิบัติหน้าที่ผู้ตัดสินด้วยความเด็ดขาด ถูกต้อง แต่มีความสุภาพอ่อนน้อม 

7. ควรใช้วาจาเฉพาะที่จำเป็น ถ้ามีความจำเป็นจะต้องพูดก็ควรพูดเฉพาะหลักการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ฟัง 

8. ไม่ควรโต้เถียงกับผู้หนึ่งผู้ใด อันจะเป็นการลดฐานะและลดศักดิ์ศรีของตนเองให้ตกต่ำลง จะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกัน หรือทำให้เกิดความขัดข้องเคืองใจ ผู้ตัดสินจะต้อง สร้างความเชื่อมั่น สามารถควบคุมอารมณ์ได้ และจะต้องไม่มีอารมณ์ค้าง 

9. ถ้ามีการสัมภาษณ์ของสื่อมวลชน จะต้องหลีกเลี่ยงและปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ ด้วยความสุภาพ หรือแนะนำให้ไปสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบสูงสุดที่รับผิดชอบในการแข่งขันครั้งนั้น เท่านั้น แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ จริงๆ จงให้สัมภาษณ์เฉพาะที่เป็นหลักการเท่านั้น จะต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นซ้ำเติมหรือก้าวก่าย หน้าที่ของผู้อื่นอย่างเด็ดขาด และจะต้องพูดกระชับ น้อยเท่าที่น้อยได้

ข้อแนะนำในการปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้ตัดสินเทนนิส (ในสนามแข่งขัน)


1. ผู้ตัดสินที่ดีควรให้ความสำคัญกับบุคลิกลักษณะภายนอกของตนเอง ชุดแต่งกาย ต้องสะอาด ดูดีชุด ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามที่สมาคมกำหนด บุคลิกลักษณะภายนอกเป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบส่วนบุคคล ที่นำไปสู่ความภาคภูมิใจในตนเอง 

2. ผู้ตัดสินที่ดีต้องตรงต่อเวลา ต้องตระหนักว่าทั้งผู้ฝึกสอนและผู้เล่นมีสิ่งที่ต้องคิด ในการเล่นมากพออยู่แล้วที่จะต้องคอยกังวลว่าเมื่อไหร่ผู้ตัดสินจะมา โดยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ก็คือ การเดินทางมาให้ตรงเวลา ยังเป็นการ และยังถือเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันอีกด้วย 

3. ระหว่างการแข่งขันผู้ตัดสินที่ดี ต้องไม่พูดคุยโต้ตอบกับผู้เล่นและผู้ฝึกสอนจนยืดยาว การโต้เถียง เช่นนั้นจะเป็นเหตุทำให้เกิดปัญหามากกว่าจะพบทางแก้ปัญหา หากมีความจำเป็นต้องติดต่อพูดคุยกับใคร การพูดคุยนั้นต้องสุภาพ มีมารยาท ชัดเจน แต่กะทัดรัดได้ใจความ ในทางตรงกันข้ามการพูดคุยกับผู้บันทึกคะแนนและผู้จับเวลา ต้องให้ความละเอียด ชัดเจน ไม่เร่งรีบ 

4. ผู้ตัดสินที่ดีต้องไม่ทำตนเองให้เป็นจุดสนใจ ต้องรู้บทบาทของผู้ตัดสิน ควรดำเนินไป อย่างไม่สะดุดตาเท่าที่จะทำได้ เสียงที่ใช้ต้องชัดเจน จริงจัง และน่าเชื่อถือ สัญญาณสื่อความหมาย ได้ชัดเจน การหยุดเกมต้องคงไว้ ซึ่งความเฉียบขาด เท่าที่จะทำได้ 

5. ผู้ตัดสินที่ดีจะต้องรู้ว่า การตัดสินที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันอาจจะเป็นที่สงสัย ของผู้เล่นหรือ ผู้อื่น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงเหตุผลกับคำตัดสินนั้น การส่ายศีรษะ หรือแสดงท่าทางไม่ยอมรับ เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยของส่วนหนึ่งในการแสดงออก 

6. ผู้ตัดสินที่ดีต้องไม่ยึดถือหนังสือกติกาจนเกินไป เขาควรตระหนักว่ากติกาทุกข้อ ประสงค์เพื่อ สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาการเล่น เขาควรรู้และใช้กติกาให้เป็นไปตามจุดประสงค์ คำว่า “จังหวะ” “การไหลลื่นของ เกม” และ “การจัดการกับเกม” เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เช่นเดียวกับคำนิยามในกติกา 

7. ผู้ตัดสินที่ดีต้องมีความเป็นมืออาชีพ เปิดเผย และมีเหตุผล 

8. ผู้ตัดสินที่ดี คือ ผู้ที่มีมารยาทและควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ และไม่สูญเสียความอดทนกับผู้เล่น ผู้ตัดสินต้องยอมรับการพูดคุย ปรึกษาข้อขัดแย้งในการเล่นในขณะเดียวกัน ต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยปราศจากพฤติกรรมที่หยิ่งยโส ต้องรู้ว่าใครคือผู้ที่สามารถจะคุยสั่งการได้ และตระหนักว่าหากเกิดการทักท้วงต่อคำตัดสิน ต้องรู้จักใช้กติกาและจุดประสงค์ของกติกาจัดการกับคำทักท้วงนั้นอย่างชาญฉลาด ขณะเดียวกันผู้ตัดสินต้องตระหนักถึงคำสองคำที่มีความสำคัญมากในการพูดเมื่อปฏิบัติหน้าที่ คือ "กรุณา" และ "ขอบคุณ"

9. ผู้ตัดสินที่ดีต้องตระหนักว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่ไม่รู้จักความผิดพลาด ความผิดพลาดย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เสมอ เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้นควรรู้จักการยอมรับข้อผิดพลาดนั้น โดยไม่ทำให้เกิดการขาดความมั่นใจและความวุ่นวายใจ เมื่อความผิดพลาดได้รับการแก้ไขแล้ว ก็คือ ความถูกต้อง หากเกินขอบเขตที่จะแก้ไขได้การแข่งขันก็ต้องดำเนินต่อไป การปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความสามารถที่สุด คือ วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติหน้าที่เสมอ

ข้อละเว้นของกรรมการผู้ตัดสินเทนนิสที่ไม่ควรปฏิบัติ


1. ไม่ปฏิบัติหน้าที่ ถ้ามีความรู้สึกว่าร่างกายไม่สบายหรือไม่สมบูรณ์ ไม่พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่จะต้องแจ้งให้ผู้รับผิดชอบ (หัวหน้าผู้ตัดสิน) ทราบล่วงหน้าก่อน 

2. ไม่เลือกตัดสินเฉพาะคู่แข่งขันที่เราพึงพอใจ 

3. ไม่เลือกเฉพาะที่จ่ายเบี้ยเลี้ยงค่าตอบแทนสูง/หรือคู่แข่งขันที่ตัดสินง่าย 

4. ไม่เลือกรับตัดสินเพียงเพื่อหวังจะรับรางวัลเท่านั้น 

5. ไม่ตัดสินคู่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับตนเอง 

6. ไม่สนทนาวิสาสะกับผู้ฝึกสอน หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมต่างๆ ทั้งก่อนและหลัง การแข่งขัน 

7. ไม่สนใจกับเหตุการณ์อื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน ควรสนใจเฉพาะเหตุการณ์ ที่เกี่ยวข้อง กับการแข่งขันเท่านั้น 

8. ไม่คุยโม้โอ้อวดในขณะที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ 

9. ไม่เกรงกลัวในการที่ท่านจะลงโทษนักกีฬา หรือผู้เกี่ยวข้องกับนักกีฬาที่เล่นกระทำผิดกติกา เมื่อท่านได้มั่นใจว่าเขากระทำผิดจริง 

10. ไม่ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน ถ้าท่านต้องทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนด้วย 

11. ไม่ตัดสินด้วยการเดาหรือคาดคะเนว่าจะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นแล้ว 

12. ไม่สร้างความหวังหรือบนบานศาลกล่าวให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือท่าน เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แต่ขอให้ท่านมีความเชื่อมั่นในตนเอง 

13. ไม่ขอความเห็นใจต่อผู้อื่น หรือบอกกับผู้อื่นว่าเป็นภาระหนักเหลือเกินที่ท่านต้องทำหน้าที่ตัดสินการแข่งขันคู่นี้ 

14. ไม่แก้ตัวหรือขอโทษในข้อผิดพลาดของตนที่อาจมี ไม่ต้องอธิบายให้ใครฟังว่าท่าน ได้ตัดสิน ถูกต้องแล้ว แม้ว่าจะเป็นเวลาที่พักอยู่ก็ตาม หรือเวลาประชุมแก้ไขทุกครั้ง 

15. ไม่ทำโทษหรือลงโทษผู้แข่งขันฝ่ายตรงข้ามเมื่ออยู่ในขณะได้เปรียบ หรือระงับ การลงโทษอัน จะเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายผู้กระทำผิด 

16. ไม่โต้เถียงกับผู้แข่งขัน ผู้ฝึกสอน และผู้ชม ในขณะที่กำลังแข่งขันและกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ 

17. ไม่เสียอารมณ์แม้ท่านจะถูกต่อว่าหรือถูกทักท้วงจากผู้แข่งขัน ผู้ฝึกสอน หรือผู้ชม ก็ตาม 

18. ไม่ละสายตาของท่านออกจากการแข่งขัน 

19. ไม่เก็บเอาการแข่งขันที่ท่านได้ทำการตัดสินไปแล้วมาคิดทบทวนในระหว่างที่คู่อื่นๆ กำลังแข่งขันอยู่ 

20. ไม่รีรอเมื่อท่านทำหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ควรออกจากสนามแข่งขัน และกลับที่พักทันที 

21. ไม่แต่งกายตามสบาย เมื่อท่านจะต้องปฏิบัติหน้าที่จะต้องแต่งกายให้เหมาะสม กับประเภท กีฬาชนิดนั้นๆ



#กติกาเทนนิส...


หลักการเป็นผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส (Chair Umpire)



กรรมการผู้ตัดสิน (Chair Umpire)



 หลักการเป็นกรรมการผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส (Chair Umpire)

บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ


กรรมการผู้ตัดสินกีฬาเทนนิส และผู้ตัดสินชี้ขาดจะต้องทำงานประสานและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้ระเบียบและกฎกติกาของการแข่งขันเทนนิส โดยปกติแล้วผู้ตัดสินจะทำหน้าที่ในสนามแข่งขัน ตัดสินนับแต้มและแก้ปัญหาที่อยู่ในสนามแข่งขัน โดยให้การแข่งขันในสนามแข่งขันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ผู้ตัดสินจะต้องมีหลักในการปฏิบัติงานของแต่ละคนให้มั่นคงแน่วแน่ จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ มีหลักปฏิบัติที่สำคัญ 4 ประการ หรือหลัก 4F คือ

FITNESS หมายถึง มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ คือ จะต้องเป็นผู้ที่มีสมรรถภาพทางกายที่แข็งแรง รูปร่างดี รู้จักการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีจิตใจร่าเริงเบิกบาน ต้องพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ ผมตัดเรียบร้อย เล็บสั้น สะอาด ฯลฯ มีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอที่จะรับการเปลี่ยนแปลงในด้านวิชาการ ด้านกติกา จะต้องรู้จริง สามารถวิเคราะห์กติกาเข้าใจได้อย่างถ่องแท้

FAIRNESS หมายถึง มีความยุติธรรมให้แก่นักกีฬาทุกคน ทุกทีม ไม่คำนึงถึงชื่อเสียง นักกีฬาที่เข้า แข่งขัน ไม่เอนเอียงเข้ากับผู้ใด

FIRMNESS หมายถึง มีความเชื่อมั่นในตนเอง จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการณ์ใดๆ เกิดขึ้น ต้องไม่ใช้อารมณ์ของตนเป็นเครื่องตัดสิน มีสติรอบคอบตลอดเวลา การแสดงกิริยาท่าทางต้อง เด็ดขาด ชัดเจน ไม่ลังเล การแต่งกายเรียบร้อย ไม่เป็นอันตรายต่อนักกีฬา และถูกต้องตามกฎระเบียบกติกา 

FRIENDLY หมายถึง มีความสัมพันธ์เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทให้ความเป็นกันเองกับ สมาชิกผู้ตัดสิน รู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้จะไม่ได้มีการร้องขอก็ตาม มีความเอื้ออาทรต่อกันและกันอย่างแท้จริง

ลักษณะของการเป็นผู้ตัดสินกีฬาเทนนิสที่ดี


1. เป็นผู้ที่มีบุคลิกท่าทางที่น่านิยม สภาพของร่างกาย กิริยาท่าทาง การแต่งกาย ทั้งภายนอก และภายในสนามเหมาะกับสภาพและกาลเทศะ 

2. เป็นผู้ที่มีอารมณ์มั่นคง แสดงออกถึงความน่าเชื่อถือ เป็นผู้ที่มีความซื่อตรง แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ต่อผู้เข้าแข่งขัน และต่อผู้ตัดสินด้วยกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง มีความเที่ยงธรรม และมีศักดิ์ศรีของการ เป็นผู้ตัดสิน 

3. เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญ มีน้ำใจเด็ดเดี่ยว ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ กิริยาท่าทางกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วว่องไว ไม่เชื่องช้า ทันต่อเหตุการณ์ตลอดเกมการแข่งขัน ถ้ามีการแข่งขันที่กระทำผิดกติกา จะต้องตัดสินชี้ขาดทันที 

4. เป็นผู้ที่สามารถใช้สามัญสำนึกในการตัดสินได้อย่างดี ต้องรู้จักยืดหยุ่นให้เหมาะสม 

5. เป็นผู้ที่จะแสดงออกถึงความสามารถอย่างเต็มที่ ต้องคำนึงอยู่เสมอว่าการตัดสินทุกครั้ง คือการทำแบบฝึกหัดที่ยากมาก ฉะนั้น ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ประมาทหรือทะนงตัว 

6. เป็นผู้ที่มีใจคอหนักแน่น มีความเข้าใจในตนเอง และเพื่อนผู้ตัดสินด้วยกัน มีจิตใจกว้างขวาง ยินดีและพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และกลุ่มสมาชิก

7. เป็นผู้ที่มีเกียรติเชื่อถือได้ จะต้องไม่นำเอาข้อเสียของผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดไปบอกให้บุคคลอื่นฟัง หรือนำเอาข้อบกพร่องของผู้ฝึกสอนที่กระทำผิด หรือของนักกีฬาที่เข้าแข่งขันได้กระทำแล้วนำไปบอกเล่าให้ ผู้อื่นฟัง 

8. เป็นผู้ที่มีความยุติธรรมแก่ทุกๆ คน ต้องตัดสินการแข่งขันด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม 

9. เป็นผู้ที่มีความรอบรู้ มีเชาว์ปัญญาดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุขุมรอบคอบ ซึ่งจะทำให้การแข่งขันดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย การควบคุมการแข่งขันที่ราบรื่น ปราศจากอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้น 

10. เป็นผู้ที่มีความพร้อม มีสติสัมปชัญญะ ติดตามและควบคุมการแข่งขันตั้งแต่เริ่มต้น จน เสร็จสิ้นการแข่งขันอย่างใกล้ชิด

สิ่งที่ผู้ตัดสินควรจะยึดถือถือปฏิบัติ


1. มีความซื่อสัตย์และยุติธรรม 

2. ตั้งใจจริงในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ 

3. หลีกเลี่ยงการมีส่วนได้ส่วนเสียในการแข่งขัน 

4. หลีกเลี่ยงการโต้เถียงหรือทะเลาะวิวาทกับผู้หนึ่งผู้ใด 

5. หลีกเลี่ยงการวิจารณ์ใดๆ เกี่ยวกับการแข่งขัน 

6. ไม่เรียกร้องค่าตอบแทนเป็นพิเศษ 

7. ไม่ทำหน้าที่เป็นกรรมการผู้ตัดสิน เมื่อพิจารณาแล้วเห็นไม่เหมาะสม 

8. ไม่ละเลยต่อการกระทำความผิด แม้ว่าความผิดนั้นจะเป็นของตนเอง 

9. ไม่นำเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับการตัดสิน 

10. ไม่ละทิ้งหน้าที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

คุณสมบัติของกรรมผู้ติดสินกีฬาเทนนิส


1. มีความรู้เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาเทนนิสเป็นอย่างดี มีความสนใจติดตามข่าวสาร จากสื่อต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ สามารถสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์กับบุคคลทั่วไปได้ 

2. มีความรู้เรื่องกติกาเทนนิสเป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์ความหมายของกติกาได้อย่างถูกต้องเพื่อนำไปใช้ในการควบคุมการแข่งขัน 

3. บุคลิกภาพดี แต่งกายเรียบร้อยทั้งในการปฏิบัติหน้าที่ในสนามและนอกสนาม กิริยามารยาทเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ รู้กาลเทศะ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน 

4. สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง มีการฝึกซ้อมออกกำลังกาย และบริหารร่างกายเป็นประจำ มีสายตาดี ความจำดี รู้จักสังเกต สติปัญญาและไหวพริบดี รู้จักพักผ่อนให้เพียงพอ 

5. มีความยุติธรรม ทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ วางตนได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่นำปัญหาอื่นๆ มาเกี่ยวข้องขณะทำหน้าที่ผู้ตัดสิน 

6. มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้อภัย ยินดีรับฟังความคิดเห็นหรือคำแนะนำจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องขณะทำหน้าที่ผู้ตัดสิน โดยเฉพาะจากเพื่อนผู้ตัดสินด้วยกัน ไม่วิจารณ์การตัดสินไปในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ 

7. มีความขยันหมั่นเพียรในการฝึกซ้อมและการทำหน้าที่ผู้ตัดสิน ศึกษาการแข่งขัน การตัดสินของบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง


#กติกาเทนนิส...


หลักการเป็นผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน (Tournament Director)



ผู้อำนวนการแข่งขัน (Tournament Director)


หลักการเป็นผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน (Tournament Director)


บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ


ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน และผู้ตัดสินชี้ขาดจะต้องทำงานให้ประสาน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้ระเบียบ และกติกาของการแข่งขันเทนนิส โดยปกติแล้วผู้อำนวยการจัดการแข่งขันจะรับผิดชอบภาพรวมทั้งหมดในการแข่งขั้นครั้งนั้นๆ และผู้ตัดสินชี้ขาดจะทำหน้าที่ในสนามแข่งขัน หรือตัดสินปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทั้งหมด

หน้าที่และอำนาจของผู้อำนวนการแข่งขัน


ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันจะมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฏและระเบียบการแข่งขันกำหนด เพื่อให้มีการแข่งขันดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 

1. ประสานงานกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันและผู้ตัดสินชี้ขาดอยู่เสมอ หากเกิดสิ่งใดขาดไปก็ต้องพยายามทำให้ครบถ้วนตามที่ระเบียบกำหนดไว้ 

2. รับสมัครและจัดรวบรวมรายชื่อนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วจัดส่งไปยังผู้ที่รับผิดชอบต่อไป 

3. ให้ข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน รวมถึงอำนวยความสะดวกในการติดต่อสอบถาม 

4. จัดเตรียมความพร้อมของสนามแข่งขัน ให้อยู่ในสภาพที่สามารถทำการแข่งขันได้อย่างไม่มีข้อติดขัด หรือผิดต่อข้อกำหนดที่บอกไว้ในระเบียบจัดการแข่งขันนั้นๆ 

5. จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันทั้งหมด 

6. ประชาสัมพันธ์การแข่งขันสู่มวลชนด้วยวิธีต่างๆ



#กติกาเทนนิส...

หลักการเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด (Referee) กีฬาเทนนิส



ผู้ตัดสินชีขาด (Referee)


หลักการเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด (Referee) กีฬาเทนนิส

บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ


ผู้ตัดสินชี้ขาดและผู้อำนวยการจัดการแข่งขันจะต้องทำงานให้ประสาน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันภายใต้ระเบียบและกติกาของการแข่งขันเทนนิส โดยปกติแล้วผู้ตัดสินชี้ขาดจะทำหน้าที่ในสนามแข่งขัน หรือตัดสิน ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันจะรับผิดชอบภาพรวมทั้งหมดในการแข่งขั้นครั้งนั้น ๆ

หน้าที่และอำนาจของกรรมการผู้ตัดสินชี้ขาด


ผู้ตัดสินชี้ขาด (Referee) จะมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฏ และระเบียบการแข่งขันจะพึงกำหนดให้มีเพื่อการแข่งขันเป็นไปด้วยความยุติธรรม และราบรื่น ดังต่อไปนี้ 

1. ประสานงานกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันและผู้อำนวยการจัดการแข่งขันตั้งแต่การเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันและสิ่งที่จะต้องมีในการแข่งขันเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบการแข่งขันนั้นกำหนดไว้ 

2. คัดเลือกนักกีฬาเข้าสู่สายแข่งขันตามสถานภาพนักกีฬา จัดเรียงลำดับนักกีฬาตามที่ระเบียบการแข่งขันกำหนด 

3. ลงทะเบียนผู้เล่น และจัดสายการแข่งขันโดยขั้นตอนการจัดสายการแข่งขันจะเป็นไปตามระเบียบการแข่งขันของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ 

4. ควบคุมการแข่งขันให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และรวดเร็วตามสภาพของการแข่งขันอย่างไม่ติดขัด 

5. จัดกำหนดการแข่งขัน ซึ่งจะต้องประกาศให้นักกีฬาทราบรวมถึงผู้ชมและสื่อมวลชน 

6. รักษาวินัยอย่างเคร่งครัด ตัดสินใจด้วยความสุขุม และเฉียบขาด มีลักษณะของความเป็นผู้นำเสมอ 

7. ตัดสินแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสนามแข่งขันร่วมกับผู้ตัดสินภายใต้ กฏและกติกาเทนนิส ตอบข้อซักถามของนักกีฬา 

8. ประสานงานกับผู้อำนวยการจัดการแข่งขันในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภาพทั่วไป และสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามแข่งขัน ความพร้อมต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ทำการแข่งขัน 

9. พิจารณาสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่สนามหากมีความจำเป็น เช่น ผู้กำกับเส้น หรือเด็กเก็บลูก เป็นต้น ในกรณีที่จำเป็น เมื่อมีความรู้สึกว่าทีมที่อยู่ในสนามเกิดความกดดันจากนักกีฬา เพื่อหมุนเวียนให้ได้พักผ่อน เพื่อลดการกระทบกระทั่ง เป็นต้น 

10. พิจารณาสภาพสนามแข่งขันประกอบการตัดสินใจทำให้สนามพร้อมใช้ในการแข่งขัน ในกรณีที่ต้องใช้ไฟส่องสว่างหรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป หรือหากมีความจำเป็นจะต้องย้ายสนามแข่งขัน 

11. รวบรวมผลการแข่งขันในแต่ละวัน และรวบรวมผลการแข่งขันทั้งหมดเพื่อส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายจัดการแข่งขัน สื่อมวลชน ผู้ชม ต่อไป




#กติกาเทนนิส...

กติกาเทนนิส และข้อชี้ขาด



INTERNATIONAL TENNIS FEDERATION


 กติกาเทนนิส และข้อชี้ขาด

                                        ผู้ตัดสินจะต้องหมั่นทบทวนกติกาและระเบียบการแข่งขันเทนนิสอยู่เสมอ  เพื่อให้การพิจารณาใช้กติกาและระเบียบเป็นไปด้วยความราบรื่น  และมีปัญหาน้อยที่สุด  การชี้ขาดในข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ  ที่เกิดขึ้นจะพิจารณาตัดสินเบื้องต้นโดยผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในสนาม  หากยังไม่มีข้อยุติ  ผู้ตัดสินชี้ขาดจะเป็นคนสุดท้ายที่มีอำนาจพิจารณาต้ดสินข้อปัญหานั้น  อย่างไรก็ดี  หากยังมีปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้นั้น  ต้องการคำอธิบายหรือเหตุผลในการใช้กติกา  สามารถติดต่อฝ่ายผู้ตัดสินของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติเพื่อขอข้อชี้ขาดได้

                                        โดยเฉพาะปัญหาการใช้ระเบียบการแข่งขัน  โดยปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ยังไม่เคยได้รับการตัดสินชี้ขาดจะถูก

                                        พิจารณาตัดสินและถือเป็นข้อยุติที่ใช้แก้ปัญหาทีเกิดขึ้นในการแข่งขันต่อไป  ซึ่งผู้ตัดสินที่ดีจะต้องคอยติดตามข่าวสารโดยเฉพาะและระเบียบการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละปี


#กติกาเทนนิส...

วิธีการตัดสินและการเขียนใบบันทึกคะแนน



กรรมการผู้ตัดสิน (Chair Umpire)

วิธีการตัดสินและการเขียนใบบันทึกคะแนน

  

                          ในการตัดสินเทนนิส ผู้ตัดสินจะต้องมีวิธีการตัดสินตามเทคนิคเบื้องต้น อันจะเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ผู้ตัดสินมีการพัฒนาและยกระดับของตัวเองอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทคนิคดังกล่าวจะต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญและให้เคยชินในการปฏิบัติหน้าที่จนกระทั่งทำให้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ทำหน้าที่ผู้ตัดสินวิธีการตัดสินอันจะนำมาซึ่งการเป็นผู้ตัดสินที่ดี มิได้หมายถึงเฉพาะระหว่างที่นักกีฬาแข่งขันกันเท่านั้น  แต่รวมถึงก่อนและหลังจบการแข่งขันในแต่ละแมทซ์ด้วย  โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้


                   1. การมาถึงสนาม


                             ผู้ตัดสินที่ดีจะต้องอยู่ในสนามที่จะปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่นักกีฬามาถึง  ซึ่งจะต้องมีเวลามากพอที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยของคอร์ทแข่งขัน  ไม่ว่าจะเป็นจุดที่สิ่งติดตั้งถาวรต่างๆ  อยู่ในตำแหน่งถูกต้องหรือไม่ เช่น ตำแหน่งเสาค้ำตาข่าย  ความสูงขอตาข่ายตรงกลาง ต้องตรวจอย่างละเอียด ในระดับนานาชาติหรืออาชีพ ต้องตรวจสอบว่ามีน้ำดื่ม ผ้าเช็ดตัว ผงขี้เลื่อย มีหรือไม่ ที่นั่งนักกีฬาต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม  เก้าอี้ผู้ตัดสินต้องไม่ตั้งย้อนแสงอาทิตย์ ต้องไม่ขยะ ลูกบอล จากการแข่งขันในแมทช์ก่อนหน้า หรือมีน้ำนองเลอะเทอะ ในคอร์ทหรือไม่ เป็นต้น  การตรวจสอบเหล่านี้จะทำให้ผู้ตัดสินมีความรอบคอบและมองดูเป็นมืออาชีพ ซึ่งจะได้รับการยอมรับจากนักกีฬา


                   2. การแนะนำนักกีฬาก่อนการแข่งขัน


                             เมื่อนักกีฬามาพร้อมกันในสนามแล้ว  ผู้ตัดสินต้องออกไปยืนในบริเวณสนามระหว่างเส้นเดี่ยว  และเส้นกึ่งกลางสนามชิดกับตาข่าย  โดยมีเพียงเหรียญสำหรับเสี่ยงที่ถือไว้ในมือ เป็นการเร่งให้นักกีฬาออกมารับฟังข้อชี้แจงก่อนการแข่งขัน  โดยผู้ตัดสินจะชี้แจงเกี่ยวกับระบบการเล่น การเปลี่ยนลูกบอล จำนวนเจ้าหน้าที่ผู้กำกับเส้น และเด็กเก็บลูก โดยให้นักกีฬาทั้งสองฝ่ายได้รับรู้


                   3. การเสี่ยงเหรียญ


                             ก่อนการเสี่ยงเหรียญจะต้องพลิกเหรียญให้นักกีฬาดู และให้นักกีฬาคนใดก็ได้เป็นคนเลือก การเลือกเหรียญที่ใช้เสี่ยงให้ใช้เหรียญที่มีขนาดพอดีไม่เล็กจนเกินไป เพื่อความชัดเจน ให้โยนเหรียญขึ้นไปในอากาศสูงพอประมาณแล้วปล่อยตกลงพื้น  ให้นักกีฬาที่ชนะการเสี่ยงมีสิทธิ์เลือกตามกติกาเทนนิส


                   4. การวอร์ม


                             ในระหว่างการวอร์ม ผู้ตัดสินจะประกาศเวลาที่เหลืออยู่ตามหลักการประกาศในหัวข้อหน้าที่ผู้ตัดสิน ช่วงระหว่างที่นักกีฬาวอร์ม ผู้ตัดสินจะใช้เวลากรอกข้อมูลในใบบันทึกแต้มเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ และถือเป็นการทดสอบสายตา เรียนรู้ลักษณะการเล่นของนักกีฬา


                   5. การเริ่มต้นการแข่งขัน


                             หลังเสร็จจากการวอร์ม นักกีฬาอาจจะเดินกลับที่นั่งเพื่อเช็ดเหงื่อ ดื่มน้ำ ในระหว่างนี้ผู้ตัดสินจะต้องตรวจสอบความเรียบร้อยของคอร์ท ลูกบอลต้องอยู่ด้านผู้เสิร์ฟ ควบคุมผู้ชมให้อยู่ในความสงบก่อนที่ผู้เล่นจะเสิร์ฟ หลังจากนั้นผู้เล่นจะออกมาเสิร์ฟลูกแรก นั่นหมายถึงการแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้น การให้ความสำคัญ ต่อการเริ่มต้นแข่งขันถือเป็นอันดับแรกที่ผู้ตัดสินต้องคำนึงถึงการผิดพลาดใดๆ  ในช่วงเริ่มเกม มักจะเป็นเหตุให้เกิดการไม่ยอมรับจากนักกีฬาจนจบการแข่งขัน


                   6. ระหว่างการแข่งขัน


                             เทคนิคในระหว่างการแข่งขันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญและเคยชิน ได้แก่


                             ก. การมองผู้รับและผู้เสิร์ฟ การมองทั้งสองอย่างนี้ต้องทำในเวลาที่ใกล้เคียงการเสิร์ฟที่สุด  เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งผู้รับและผู้เสิร์ฟพร้อมที่จะเล่น  โดยเมื่อผู้เสิร์ฟเข้าประจำจุดที่จะเสิร์ฟต้องมองไปที่ผู้รับว่าพร้อมหรือไม่  แล้วกลับมามอบที่ผู้เสิร์ฟ จนผู้เสิร์ฟลูกนั้นไป สิ่งที่ต้องตรวจสอบในช่วงเวลานี้ก็คือ  ผู้รับกระทำการใดขัดขวางผู้เสิร์ฟหรือไม่  ผู้เสิร์ฟกระทำการอันผิดต่อกติกาเทนนิสว่าด้วยการเสิร์ฟหรือไม่


                             ข. การมองลูกบอล เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความชำนาญพอสมควร การมองลูกจะต้องใช้การคาดคะเนตำแหน่งที่ลูกบอลตกด้วยโดยเฉพาะลูกเสิร์ฟที่ค่อนข้างจะเร็ว


                             ค. การมองผู้เสียแต้ม ผู้ที่เสียแต้มมักจะมีปฏิกิริยาค่อนข้างยาก ไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดจากการตัดสินผิดพลาดเสมอไป บางครั้งผู้เล่นที่เสียแต้มอาจต้องการคำยืนยันการตัดสินจากผู้ตัดสินอีกครั้ง  หรืออาจแสดงกิริยาที่ไม่ดีออกมา  ผู้ตัดสินไม่ควรมองอย่างกดดันนักกีฬา  ให้มองแบบผ่านในลักษณะให้อยู่ในสายตาเท่านั้น  อย่างไรก็ดีผู้ได้แต้มก็ไม่ควรละเลยที่จะมอง  เพราะอาจมีกิริยาที่แสดงออกมาถึงการเยาะเย้ยคู่ต่อสู้ได้  หลังจากนั้นจึงขานแต้ม


                             . การขานแต้ม  การขานแต้มในกรณีที่ไม่มีเครื่องขยายเสียง  จะต้องดังเพียงพอที่จะทำให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายและผู้ชมได้ยินอย่างชัดเจน  หากมีสนามใกล้เคียงหรือติดกันกำลังทำการแข่งขัน ต้องคำนึงถึงเสียงที่จะไปรบกวนสนามข้างเคียงด้วย  หากมีเครื่องขยายเสียงควรปรับระดับโทนสียงลง  ให้มีความดังที่เหมาะสม  โดยหากมีเครื่องขยายเสียงให้ผู้ตัดสินทดสอบทุกครั้งเมื่อมาถึงสนาม


                        จ. การบันทึกคะแนนในใบบันทึกคะแนน เมื่อขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นผ่านพ้นไปแล้ว จะต้องใช้เวลาในการบันทึกคะแนนให้น้อยที่สุด แต่ต้องถูกต้องและครบถ้วน


                   7.  หลังจากการแข่งขัน


                             หลังจากจบการแข่งขันโค้งคอยรับไหว้ (จับมือ)  นักกีฬา  จึงจะถือว่าทำหน้าที่จนจบ  และหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับนักกีฬา  โดยเก็บเครื่องมือหรือเอกสารทุกอย่างออกจากสนามโดยเร็ว  กรอกใบบันทึกคะแนนให้สมบูรณ์  ส่งใบบันทึกคะแนนรายงานเหตุการณ์ที่ไม่ปกติให้ผู้ตัดสินชี้ขาดได้รับทราบ  รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักกีฬา  หากมีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น


                    8. การบันทึก 


                          ผู้ตัดสินต้องบันทึกผลให้ถูกต้องตามแบบบันทึกผลในแต่ละแบบที่ใช้ และลงข้อมูลให้ครบถ้วนตามแบบฟอร์มที่ใช้หรือเครื่องบันทึกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ในบันทึกสกอร์จะเป็นข้อมูลหนึ่งสำหรับการแข่งขันของนักกีฬา และสำหรับข้อมูลด้านเทคนิคอื่น ๆ ของการแข่งขัน เช่น เวลาที่ใช้ในการแข่งขันว่ายาวนานเพียงใด เพื่อกำหนดเวลาพัก หากต้องทำการแข่งขันมากกว่า 1 แมทซ์ ในวันเดียวกัน เป็นต้น


การเขียนใบบันทึกแต้ม


หมายเหตุ : ก่อนลงสนามทุกครั้ง ควรเตรียมพร้อมเขียนใบบันทึกแต้มไว้ก่อนเสมอ ชื่อ-นามสกุล และสนามแข่งขัน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด


#กติกาเทนนิส...